ตกขาว ระดูขาว หรือ มุตกิด คือ สิ่งคัดหลั่งจากอวัยวะในอุ้งเชิงกรานของสตรีไม่ว่าจะเป็นจากช่องคลอด ปากมดลูก หรือแม้กระทั่งจากตัวมดลูกเองก็ตาม โดยถือเป็นภาวะปกติของผู้หญิงทุกคน ซึ่งในช่วงเด็กอาจมีเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีประจำเดือน ตกขาวจะมีมากขึ้นและมีปริมาณที่พอเหมาะไปจนถึงวัยสูงอายุ ซึ่งจะเป็นช่วงที่ตกขาวมีปริมาณลดลงจนแทบไม่มีอีกครั้ง
โรคมะเร็งรังไข่
โรคมะเร็งรังไข่ (Ovarian Cancer) เป็นโรคมะเร็งชนิดหนึ่ง เกิดจากการที่เซลล์มะเร็งเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วที่รังไข่ ซึ่งเป็นหนึ่งในอวัยวะระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิง ทำหน้าที่ในการผลิตไข่และฮอร์โมนเพศหญิง อยู่ใต้ปีกมดลูกทั้ง 2 ด้าน โดยการแบ่งตัวผิดปกติของเนื้อเยื่อบริเวณรังไข่ (Ovary) หรือท่อนําไข่ (Fallopian Tube) ซึ่งสามารถเกิดเพียงข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้าง ส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการ ทําให้รังไข่มีขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ จนอยู่ในระยะลุกลาม หรือระยะการแพร่กระจาย ซึ่งมักแพร่กระจายไปตามเยื่อบุช่องท้อง หรือเข้าสู่กระแสเลือด หรือทางเดินนํ้าเหลือง จนไปปรากฏยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น อุ้งเชิงกราน, ปอด หรือตับ เรียกมะเร็ง รังไข่ระยะนี้ว่า ระยะแพร่กระจาย (Metastasis) ผู้ป่วยมักจะมีอาการท้องอืดหรือท้องบวม น้ำหนักลด และอาจเจ็บในบริเวณท้องน้อยหรือเชิงกรานร่วมด้วย
ภาวะเชื้อราในช่องคลอด
ภาวะเชื้อราในช่องคลอด (Vaginal Candidiasis) เกิดจากการติดเชื้อราภายในช่องคลอด หรือบริเวณปากช่องคลอด มีการเพิ่มจำนวนเชื้อรามากกว่าปกติภายในช่องคลอดจนทำให้สภาพภายในช่องคลอดเสียสมดุล โดยปกติเชื้อราเหล่านี้มักอาศัยอยู่ตามช่องปาก อวัยวะเพศ ระบบทางเดินอาหาร หรือบนผิวหนังของคนเราในปริมาณน้อยและไม่ก่อให้เกิดโรค แต่เมื่อเชื้อราเหล่านี้มีปริมาณมากขึ้นจึงพัฒนาให้เกิดการติดเชื้อขึ้นได้ โดยผู้ที่ป่วยจะมักพบอาการบริเวณปากช่องคลอด และภายในช่องคลอด เช่น ระคายเคือง คันอย่างรุนแรง ผื่นขึ้น หรือบวมแดง รวมถึงมีตกขาวออกจากช่องคลอดได้
ผู้หญิงวัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือน
ผู้หญิงวัยทอง (Menopause) หรือ วัยหมดประจำเดือน หรือวัยหมดระดู คือ ภาวะที่ผู้หญิงในวัย 40 – 59 ปี เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน โดยมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งมาจากการที่รังไข่จะหยุดสร้างฮอร์โมนเพศหญิงที่มีชื่อว่า เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ส่งผลให้ไม่มีประจำเดือน หรือทำให้สิ้นสุดการมีประจำเดือนอย่างถาวรร่วมด้วยกับการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาตามมา
ทำความรู้จักกับยาปฏิชีวนะ คืออะไร?
ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) หรือเรียกันสั้น ๆ ว่ายาฆ่าเชื้อ คือ ยาที่มีฤทธิ์ในการฆ่า หรือยับยั้งการเจริญเติบ หรือต้านจุลชีพซึ่งโดยทั่วไปมักเป็นเชื้อแบคทีเรีย างคนจึงเรียกว่า ยาต้านแบคทีเรีย (แอนติแบคทีเรียล/Antibacterial) หรือ ยาต้านจุลชีพ(Antimicrobial agent/drug) ในร่างกายของมนุษย์จะมีระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรค เช่น เม็ดเลือดขาวที่ใช้ป้อง กันการบุกรุกของเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย อาทิ เชื้อวัณโรค เป็นต้น ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่เชื้อโรคมีมากจนภูมิต้านทาน หรือเม็ดเลือดขาวสู้ไม่ได้ เราก็จำเป็นต้องหาผู้ช่วย เช่น ยาปฏิชีวนะ เข้ามาเป็นกำลังเสริม
ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
ภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial vaginosis) เป็นอาการอักเสบซึ่งเกิดจากความไม่สมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด ทำให้เกิดอาการระคายเคือง คัน และมีตกขาวผิดปกติ โดยสามารถเกิดขึ้นได้ในผู้หญิงทุกช่วงวัย แต่มักพบมากในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่มีช่วงอายุ 15-49 ปี แม้ว่าในผู้หญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะนี้ได้เช่นกันและเป็นสาเหตุของภาวะตกขาวผิดปกติที่พบบ่อยที่สุด
โรคเกี่ยวกับไตที่พบได้บ่อยในคนไทย
โรคไต คือ กลุ่มโรค หรือภาวะที่ทำให้ไตเกิดความเสียหาย หรือทำงานผิดปกติจนเกิดอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ตามมา เนื่องจากไตไม่สามารถฟอกเลือดหรือขับของเสียออกจากเลือดได้ตามปกติ มีหลายชื่อเรียกกัน เช่น ไตวาย ไตเสื่อม ไตทำงานลดลง แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก คือ โรคไตเฉียบพลัน และโรคไตเรื้อรัง หากป่วยเป็นโรคไต ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อบรรเทาอาการและป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ดังนั้น หากสังเกตพบอาการที่บ่งชี้ว่าไตมีปัญหา ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาให้ทันการณ์
โรคเกี่ยวกับตับที่พบได้บ่อยในคนไทย
โรคตับ คือ อาการเจ็บป่วยที่ส่งผลให้ตับเกิดความเสียหาย จนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติหรือทำได้แต่ด้อยประสิทธิภาพลง เพราะตับ เป็นอวัยวะสำคัญ ที่มีหน้าที่สร้างน้ำดี เพื่อการช่วยย่อยอาหารประเภทไขมัน และทำลายสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย พร้อมทั้งกรองของเสียต่างๆ ให้เป็นของดีมีประโยชน์ สามารถนำกลับมาใช้ในร่างกาย หากตับทำงานได้น้อยลง หรือเกิดโรคของตับ เช่น มีไขมันพอกตับ ตับอักเสบ ตับแข็ง จะส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติทางร่างก่ายที่ส่งผลไปทั้งระบบ จนนำไปสู่การเสียชีวิตได้เมื่อตับเสียการทำงานจนถึงขั้นเข้าสู่ภาวะตับวาย และโรคมะเร็งตับได้
ช็อกโกแลตซีสต์
ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst ,Endometriotic cyst ,Endometrioma) หรือโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ คือ เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดลอกเป็นประจำเดือน แล้วเลือดประจำเดือนไหลย้อนกลับเข้าไปในช่องท้องแล้วไปฝังตัวที่รังไข่จนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำ ซึ่งภายในบรรจุไปด้วยของเหลวคล้ายเลือดประจำเดือน สะสมไว้จนกลายเป็นสีเข้มขึ้นคล้ายสีช็อกโกแลต
โดยมักพบเยื่อบุโพรงมดลูกไปเจริญอยู่ที่บริเวณผิวด้านนอกมดลูกและบริเวณใกล้เคียง เช่น ท่อนำไข่ รังไข่ กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ ช่องคลอด มดลูก และเยื่อบุช่องท้องบริเวณอุ้งเชิงกราน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีทฤษฎีที่เชื่อว่าเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกกระจายไปที่อื่นได้ โดยผ่านทางระบบหลอดเลือดและน้ำเหลือง ทำให้สามารถพบความผิดปกติที่อวัยวะอื่นๆ ได้ทั้ง ปอด ตับ ต่อมน้ำเหลือง สมอง และผิวหนัง เป็นต้น
ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนี้ได้แก่ สตรีที่วัยทองเข้าสู่การหมดประจําเดือน มีบุตรตอนอายุมาก ผู้ที่มีประวัติบุคคลในครอบครัวป่วยด้วยโรคนี้ รวมทั้งพฤติกรรมดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และคาเฟอีนเป็นประจำ
โรคมะเร็งเต้านม
เต้านม อวัยวะที่แสดงถึงลักษณะทางเพศหญิงอย่างหนึ่ง ประกอบไปด้วยต่อมน้ำนม ท่อน้ำนม ไขมัน เส้นเลือด ต่อมน้ำเหลือง เต้านมวางอยู่บนกล้ามเนื้อหน้าอกและซี่โครง มีหน้าที่ในการสร้างน้ำนม โดยเต้านมจะขยายขนาดตอบสนองกับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งผลิตจากรังไข่เป็นหลัก
โรคมะเร็งเต้านม (Breast cancer) เกิดเนื่องการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์ท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนมทำให้เกิดเป็นก้อนเนื้องอก โดยหากไม่ได้รับการรักษา มะเร็งจะโตขึ้นและกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ก่อนที่จะกระจายไปอวัยวะอื่นๆ เช่น ปอด ตับ สมอง กระดูก จนเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิต