U=U : ไม่เจอเท่ากับไม่แพร่

แนวคิด U=U ได้เป็นที่รู้จัก และเป็นที่ยอมรับในวงกว้างที่เกี่ยวกับ HIV/AIDS ร่วมกับการพัฒนาของการรักษาด้านการต้านไวรัส ความเข้าใจเกี่ยวกับ U=U มีความสำคัญมากในการลดความเครียดและเสริมสุขภาพจิตของผู้ติดเชื้อเอชไอวี โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี

U=U : ไม่เจอเท่ากับไม่แพร่  คืออะไร?

ไม่เจอเท่ากับไม่แพร่ หรือ Undetectable = Untransmittable หรือ U=U

หมายถึง การมีระดับปริมาณไวรัสเอชไอวีในเลือดต่ำมาก หรือไม่สามารถตรวจพบได้ ทำให้ไม่สามารถแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้ แม้ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน ซึ่งแนวคิดนี้มาพร้อมกับความก้าวหน้าในการรักษาการติดเชื้อเอชไอวี ที่สามารถควบคุมระดับปริมาณไวรัสเอชไอวีในร่างกายได้ โดยผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี ต้องเข้ารับการรักษา และกินยาต้านไวรัสเอชไอวีอย่างรวดเร็ว และกินยาตรงเวลาอย่างต่อเนื่อง จนไปกดปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวีให้มีจำนวนลดลงจนถึงระดับที่ไม่สามารถตรวจหาเชื้อไวรัสเอชไอวีในเลือดได้ คือ ผลการตรวดวัดปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวีในเลือดของผู้ติดเชื้อ มีค่าน้อยกว่า 50 copies/ซีซีของเลือด 

ประโยชน์ของ U=U : ไม่เจอเท่ากับไม่แพร่ 

• ลดความเครียด การมีความเข้าใจ และการยอมรับ U=U ช่วยลดความเครียด และความกังวลในผู้ติดเชื้อเอชไอวี เนื่องจากพวกเขารู้ว่าสามารถมีความสัมพันธ์เพศโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการแพร่เชื้อเอชไอวีไปยังผู้อื่น
• การใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวีอย่างสม่ำเสมอ ซึ่ง U=U สร้างแรงจูงใจให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีใช้ยาต้านไวรัสอย่างถูกต้อง และสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมระดับไวรัสในร่างกายให้อยู่ในระดับที่ต่ำที่สุด เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น
• ลดการติดเชื้อเอชไอวี U=U ช่วยลดผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ด้วยการให้ยาต้านไวรัสทีมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ติดเชื้อมีระดับปริมาณไวรัสต่ำทำให้ไม่สามารถแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้
• หมั่นไปตรวจหาปริมาณไวรัสในเลือดทุกปีตามสิทธิ์ และทำให้รับรู้สถานะของตนว่า ตรวจไม่เจอจริงหรือไม่ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น เช่น มีครอบครัวได้ สุขภาพจิตดีขึ้น 
• มีความมั่นใจตนเองมากขึ้น กล้าตัดสินใจเปิดเผยผลเลือดของตนให้คู่นอนทราบ กล้าชวนคู่ไปตรวจเอชไอวี กล้าตัดสินใจตั้งครรภ์ และเลิกโทษตัวเองว่าอาจเป็นเหตุทำให้คู่ของตนติดเชื้อ เพราะไม่สามารถสวมถุงยางอนามัยได้ทุกครั้ง 
• ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง หรือผู้ที่ไม่เคยไปตรวจเลือดเลย กล้าที่จะไปตรวจ และเข้าสู่ขั้นตอนการรักษาในทันทีหากตรวจพบว่าติดเชื้อเอชไอวี นำไปสู่รักษาจนตรวจไม่พบเชื้อเอชไอวี นอกจากจะไม่ป่วยแล้ว ยังสามารถมีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป
• เมื่อสังคมมีความเข้าใจเรื่อง U=U : ไม่เจอเท่ากับไม่แพร่ แล้ว อาจทำให้การรังเกียจ และกีดกันผู้ติดเชื้อเอชไอวีลดน้อยลง สนับสนุนให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีเข้าสู่ระบบการรักษาเอชไอวี และไม่มีเหตุผลในการห้ามไม่ให้เข้าทำงาน เพราะผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ได้รับการรักษาแล้ว ไม่เป็นอันตรายต่อคู่นอนของเขาแม้จะไม่สวมถุงยางอนามัยก็ตาม และไม่เป็นอันตรายต่อคนในที่ทำงาน 
• ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ได้รับยาต้านไวรัส จะมีสุขภาพแข็งแรง และมีอายุขัยเท่าคนอื่น ๆ ที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวี สามารถทำประโยชน์ให้กับองค์กรได้ไม่แตกต่างจากคนที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวี และไม่เพิ่มภาระค่ารักษาพยาบาลให้กับองค์กร เพราะรัฐรับภาระการรักษาพยาบาลให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีทุกคน  
• ช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อเอชไอวีไปยังเด็กในระหว่างตั้งครรภ์ การคลอด และการคลอดบุตร หากหญิงตั้งครรภ์รับประทานยา HIV ทุกวันตามที่กำหนดตลอดการตั้งครรภ์ การคลอด และการคลอดบุตร และให้ยาต้านไวรัส แก่ทารกเป็นเวลา 2-6 สัปดาห์หลังคลอด ความเสี่ยงในการแพร่เชื้อเอชไอวี ไปยังทารกอาจอยู่ที่ 1% หรือน้อยกว่านั้น
• ช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อเอชไอวี ไปยังทารกผ่านการเลี้ยงลูกด้วยนมได้อย่างมากให้เหลือน้อยกว่า 1% อย่างไรก็ตามความเสี่ยงไม่เป็นศูนย์ หากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือคิดจะตั้งครรภ์ ให้พูดคุยกับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณเกี่ยวกับทางเลือกในการให้นมทารกที่เหมาะกับคุณ

ความจริง  ของ U=U : ไม่เจอเท่ากับไม่แพร่  ที่ควรต้องรู้

• ผู้ที่มีสถานะ U=U จะไม่สามารถถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีให้ใครได้อีก

U=U หมายถึง คนที่ติดเชื้อเอชไอวี แล้วกินยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่องและตรงเวลา จนสามารถกดปริมาณไวรัสให้ต่ำถึงระดับที่ไม่สามารถตรวจหาไวรัสในเลือดพบ มีหลักฐานชัดเจนว่า คนเหล่านี้จะไม่สามารถถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีทางเพศสัมพันธ์ให้ใครได้เลย ถึงแม้จะไม่ใส่ถุงยางอนามัย

• U=U คือ ข้อเท็จจริงที่ได้รับการยอมรับ

U=U ไม่ใช่งานวิจัย และไม่ได้กําลังรอผลการวิจัยใดๆ U=U เป็นความจริงที่พิสูจน์แล้วจากงานวิจัย ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทฤษฎี

• ถึง U=U จะไม่สามารถถ่ายทอดเชื้อได้อีก แม้ไม่ใส่ถุงยาง แต่ไม่ได้หมายความว่าให้เลิกใช้ถุงยาง

U=U ไม่ได้บอกให้เลิกใช้หรือห้ามใช้ถุงยาง แต่ U=U บอกว่า คนที่ติดเชื้อเอชไอวีจะไม่สามารถถ่ายทอดเชื้อให้คนอื่นได้เลย แม้จะมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใช้ถุงยาง อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีสถานะ U=U และคู่ ยังสามารถรับเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น โรคซิฟิลิส โรคหนองใน โรคหนองในเทียม โรคไวรัสตับอักเสบ หรือตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใช้ถุงยางได้ 

• U=U ไม่มีการติดเอชไอวีซ้ำซ้อน

ในอดีตเคยมีรายงานการติดเชื้อเอชไอวีซ้ําซ้อนในคนที่ติดเชื้อ และไม่ได้กินยาต้านไวรัส แต่ตั้งแต่มีการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอย่างแพร่หลาย ยังไม่เคยมีรายงานการติดเชื้อซ้ำซ้อน หรือติดเชื้อดื้อยาจากคนอื่นในผู้ที่กินยาต้านไวรัสจนตรวจไม่พบเชื้อแล้วเลย 

• U=U ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ติดเชื้อเอชไอวี และคู่

ผู้มีสถานะ U=U สามารถมั่นใจได้เลยว่าจะไม่ถ่ายทอดเชื้อให้ใครอีก หากทานยาอย่างถูกต้อง อีกทั้ง U=U ยังเหมาะกับคู่ของคนที่ติดเชื้อเอชไอวีที่คงสถานะ U=U แล้ว เพราะนอกจากจะเป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีที่ดีที่สุดแล้ว ยังช่วยตอบโจทย์คู่ที่ต้องการตั้งครรภ์อีกด้วย ผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดกับตัวเอง 

• U=U ช่วยลดการตีตราต่อผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี

เมื่อทราบแล้วว่า U=U จะไม่สามารถถ่ายทอดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกต่อไปแม้ไม่ใช้ถุงยาง การกอด การกินข้าวร่วมกัน เรียนด้วยกัน ทำงานด้วยกัน เข้าห้องน้ำเดียวกัน หรืออยู่บ้านเดียวกัน ยิ่งไม่ติดแน่ๆ ดังนั้น รีบมาตรวจเอชไอวี เพื่อเริ่มการรักษาให้อยู่ในสถานะ U=U หากพบเชื้อ เพราะการมีเชื้อเอชไอวีไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่คิด 

U=U : ไม่เจอเท่ากับไม่แพร่  เป็นแนวคิดที่มีความสำคัญในการลดความเครียด และเสริมสุขภาพจิตของผู้ติดเชื้อเอชไอวี โดยส่วนใหญ่เมื่อผู้ติดเชื้อเอชไอวีทราบ และเข้าใจถึงความหมายของ U=U มันช่วยเสริมสุขภาพจิตของพวกเขา ลดความเครียด และส่งเสริมการใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมระดับปริมาณไวรัสเอชไอวีในร่างกายให้อยู่ในระดับที่ต่ำที่สุด และทำให้สามารถลดการติดเชื้อเอชไอวี ในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตรวจหาเชื้อเอชไอวี ที่ภูเก็ตตรวจได้ที่ไหน?

ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก ให้บริการที่ใกล้ชิด ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมทั้งทีมงานที่มีความชำนาญ พร้อมให้คำปรึกษาและ การรักษา โดยคุณสามารถเข้ารับบริการได้ทั้ง walk-in หรือนัดหมายล่วงหน้า เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้ารับบริการ
จองคิวออนไลน์ https://phuketmedicalclinic.youcanbook.me
เวลาทำการ 🕙 10:00-18:00 น. ทุกวัน
เบอร์ติดต่อ ☎️ 096-696-2449
Line id : @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ) หรือ https://lin.ee/R1TKRDo
แผนที่ 📌https://goo.gl/maps/xu45eTQUTjgpukJa7
Website 🌐https://phuketmedicalclinic.com
ปรึกษาแพทย์หรือสอบถามเพิ่มเติมได้เลยนะครับ
Inbox : m.me/100483916443107
สุขภาพคุณให้เราดูแล#คลินิกภูเก็ต
Phuket #Clinic #ภูเก็ตเมดิคอลคลินิก