โรคเริมที่อวัยวะเพศ  (Genital Herpes)  เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย เกิดจากเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex Virus: HSV) บริเวณอวัยวะเพศ ส่งผลให้มีอาการเจ็บ คัน เกิดบาดแผลหรือตุ่มพองบริเวณอวัยวะเพศ และอาจมีอาการเจ็บขณะปัสสาวะร่วมด้วย อาการรุนแรงที่สุดเมื่อเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นอาการจะน้อยลง การเกิดซ้ำมักจะสัมพันธ์กับภูมิต้านทานของร่างกายที่อ่อนแอลง

ภาวะแทรกซ้อนของโรคเริมที่อวัยวะเพศ

ภาวะแทรกซ้อนโรคเริมที่อวัยวะเพศ 

มักมาจากการดูแลทำความสะอาดแผล และตุ่มใสจากเริม ได้ไม่ดี เช่น ตุ่มน้ำพองที่แตกกลับไม่แห้ง แต่กลายเป็นหนอง และติดเชื้อแบคทีเรียได้ ซึ่งโรคเริมที่อวัยวะเพศ อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ดังนี้

  • เสี่ยงติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่น โดยเชื้ออาจเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผลบริเวณอวัยวะเพศ
  • ในบางกรณีเริมที่อวัยวะเพศอาจส่งผลให้เกิดการอักเสบบริเวณท่อปัสสาวะ ซึ่งอาการบวมที่เกิดขึ้นอาจขัดขวางช่องทางปัสสาวะ ทำให้ผู้ป่วยต้องใช้ท่อสวนเพื่อระบายปัสสาวะ
  • การอักเสบบริเวณทวารหนัก เนื่องจากผู้ป่วยอาจติดเชื้อเริมที่ลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย มักพบในผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
  • การติดเชื้อที่ดวงตาที่อาจทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็น
  • เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เนื่องจากเชื้อไวรัสอาจก่อให้เกิดการอักเสบบริเวณเยื่อบุผิวและน้ำไขสันหลัง ซึ่งอยู่ล้อมรอบสมองและไขสันหลัง
  • อาจเกิดบาดแผลบริเวณอื่นในช่วงเวลาที่มีการติดเชื้อ เช่น สะโพก ขาหนีบ ต้นขา นิ้ว หรือตา เป็นต้น
  • การติดเชื้อของมารดาขณะตั้งครรภ์ ที่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อสู่ทารกในครรภ์ หากเกิดการติดเชื้อในเด็กแรกเกิด ในระหว่างการคลอด หรือการตั้งครรภ์อาจส่งผลให้เด็กติดเชื้อและส่งผลถึงสมองของทารก อาจทำให้ทารกตาบอดหรือถึงขั้นเสียชีวิต
  • อีกกรณีที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่เกิดได้น้อยมาก คือ ตัวผู้ป่วยมีภาวะภูมิต้านทานต่ำเป็นทุนเดิม อาจติดเชื้อที่บริเวณสมองหรือเยื่อหุ้มสมอง ส่งผลให้สมองอักเสบ ปวดศีรษะมาก อ่อนแรง ชักและอาจโคม่าได้

การป้องกันโรคเริมที่อวัยวะเพศ 

แม้โรคเริมที่อวัยวะเพศ จะติดต่อได้ง่าย รักษาไม่หายขาด แะยังไม่มีวัคซีนที่ป้องกันโรคเริม แต่อาจลดความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ และการแพร่เชื้อไวรัสต้นเหตุของโรคเริมที่อวัยวะเพศได้ด้วยวิธีดังนี้

  •  ควรล้างมือให้สะอาดก่อนจับอวัยวะเพศ
  • การสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์
  • ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อต่าง ๆ
  •  พยายามหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะผ้าเช็ดตัว ชุดชั้นใน
  • ไม่สัมผัสกับคน หรือสิ่งของที่อาจปนเปื้อนน้ำลายหรือสารคัดหลั่งของผู้ป่วย
  • ผู้ที่มีรอยโรคเริมที่อวัยวะเพศ ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ ตั้งแต่เริ่มมีอาการไปจนกว่าแผลเริมที่อวัยวะเพศจะหายสนิท 
  • หากตั้งครรภ์และสงสัยว่าตนเองติดเชื้อ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เนื่องจากอาจมีผลต่อทารกในครรภ์และในขณะคลอด
  • หมั่นทำความสะอาดร่างกาย การทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายเป็นประจำ 
  • การพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อรักษาระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงคงที่ และช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสเริม

การป้องกันโรคเริมที่อวัยวะเพศ กลับเป็นซ้ำ

  • หลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นให้เริมกลับมาเป็นซ้ำ เช่น ความเครียด แสงแดด รอยถลอกและรอยขีดข่วน
  • หากเริมเป็นซ้ำมากกว่า 6 ครั้งต่อปี หรือ เป็นเริมซ้ำและมีอาการที่รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

ตรวจโรคเริมที่อวัยวะเพศ ที่ภูเก็ตตรวจได้ที่ไหน?

ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก ให้บริการที่ใกล้ชิด ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมทั้งทีมงานที่มีความชำนาญ พร้อมให้คำปรึกษาและ การรักษา โดยคุณสามารถเข้ารับบริการได้ทั้ง walk-in หรือนัดหมายล่วงหน้า เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้ารับบริการ
จองคิวออนไลน์ https://phuketmedicalclinic.youcanbook.me
เวลาทำการ 🕙 10:00-18:00 น. ทุกวัน
เบอร์ติดต่อ ☎️ 096-696-2449
Line id : @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ) หรือ https://lin.ee/R1TKRDo
แผนที่ 📌https://goo.gl/maps/xu45eTQUTjgpukJa7
Website 🌐https://phuketmedicalclinic.com
ปรึกษาแพทย์หรือสอบถามเพิ่มเติมได้เลยนะครับ
Inbox : m.me/100483916443107
สุขภาพคุณให้เราดูแล#คลินิกภูเก็ต
Phuket #Clinic #ภูเก็ตเมดิคอลคลินิ