อาการปวดหัว เป็นอาการที่พบได้บ่อย เนื่องจากอาการปวดหัวที่เกิด สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากความเครียด ไมเกรน สมองเสื่อม เนื้องอกในสมอง หรือโรคหลอดเลือดสมองก็เป็นได้ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า อาการปวดหัวที่เป็น มีสาเหตุมาจากอะไร ลักษณะของอาการปวด นี่แหละที่จะช่วยให้เราประเมินเบื้องต้น เพื่อจะได้บรรเทาอาการปวดด้วยตัวเองอย่างถูกวิธี
![โรคไมเกรน](https://phuketmedicalclinic.com/wp-content/uploads/2023/08/1.โรคไมเกรน-1024x683.png)
โรคไมเกรน คืออะไร?
โรคไมเกรน (Migraine )เป็นโรคปวดหัวชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นการปวดศีรษะที่รบกวนชีวิตประจำวัน โดยมีลักษณะการปวดแบบตุบๆ เป็นจังหวะ มักจะเกิดข้างเดียวของศีรษะ แต่ก็สามารถเป็นทั้งสองข้างได้ โดยอาการปวดในช่วงแรกมักมีความรุนแรงเพียงเล็กน้อย และจะค่อยๆ เพิ่มความรุนแรงขึ้น ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนแรง และไวต่อแสง เสียง หรือกลิ่นมากขึ้น
สาเหตุโรคไมเกรน
ปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าการปวดศีรษะไมเกรนเกิดจากอะไร แต่ปัจจัยที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการปวดศีรษะไมเกรนมีหลายประการ ได้แก่
- จากการศึกษาพบว่าความไม่สมดุลของสารในสมอง เช่น เซโรทอนิน (Serotonin) และ กรดอมิโนเพปไทด์ ที่เกี่ยวข้องกับกลไกทางพันธุกรรม (CGRP) มีส่วนก่อให้อาการของโรค
- เกิดจากความผิดปกติชั่วคราวของระดับสารเคมีในสมอง ทำให้ก้านสมองถูกกระตุ้น หลอดเลือดในเยื่อหุ้มสมองมีการบีบและคลายตัวมากกว่าปกติ เกิดอาการปวดหัวตุ๊บ ๆ หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียน แพ้แสง จากก้านสมองที่ถูกกระตุ้น
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในผู้หญิง
- ช่วงที่เป็นประจำเดือน
- ความเครียด
- สภาพแวดล้อม เช่น แสงจ้าหรือแสงแฟลช เสียงดัง กลิ่นที่รุนแรง หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแบบฉับพลัน
- การใช้ยาบางชนิด
- การอดนอน การนอนหลับไม่เพียงพอ หรือมากเกินไป หรือการนอนและตื่นที่ไม่เป็นเวลา
- ออกกำลังกายอย่างหักโหม หรือทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายมากเกินไป
- การสูบบุหรี่
- อาการถอนคาเฟอีน
- การอดอาหาร หรือการรับประทานอาหารไม่เพียงพอ
- อาหารบางชนิด (อาหารหมักดอง, ชีส, ไวน์)
- ผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นไมเกรน มีโอกาสที่จะแสดงอาการของโรคสูงขึ้นตามไปด้วย
ชนิดของไมเกรนที่พบบ่อย
- Classic migrain อาการมักเกิดในช่วงวัยรุ่น เมื่ออายุมากขึ้นอาการปวดศีรษะจะลดลงจนกระทั่งหายขาด แต่ผู้ป่วยบางคนอาจจะมีอาการนำมาก่อน เช่น เห็นแสงแลบ ตามองไม่เห็น ชาซีกใดซีกหนึ่งเราเรียก classic migrain
- Common migrain อาการแสดงมักเกิดบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา ขมับและขากรรไกร ปวดมักเป็นข้างใดข้างหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการนำเรียก common migrain ไมเกรนเป็นโรครักษาไม่หายขาดแต่ถ้าเข้าใจและปฏิบัติตามคำแนะนำสามารถทำให้ควบคุมโรคได้
อาการโรคไมเกรน
อาการของโรคแบ่งออกเป็น 4 ระยะ และสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้ป่วยในทุกช่วงอายุ
- ระยะแสดงอาการล่วงหน้า (Prodrome Stage)
ก่อนอาการปวดรุนแรงไมเกรนจะเริ่มต้นขึ้น มักจะมีอาการบอกเหตุประมาณ 1 – 2 วันก่อนเป็นไมเกรน เช่น ปวดตึงตามต้นคอ อารมณ์ที่แปรปรวน ท้องผูก หิว คอแข็ง หาวบ่อย กระหายน้า และความถี่ในการปวดปัสสาวะที่เพิ่มขึ้น - ระยะส่งสัญญาณเตือน (Aura Stage)
สัญญาณเตือนของไมเกรนมักเริ่มต้นจากความผิดปกติในการมองเห็น และภาวะไวต่อแสง ในบางกรณีอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นชั่วขณะ หรือการรับภาพที่แย่ลง เช่น เห็นแสงระยิบระยับ เห็นแสงไฟสีขาวมีขอบหยึกหยัก หรือภาพเบลอหรือบิดเบี้ยว แต่บางรายก็ไม่มีอาการเตือนนำซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติของระบบประสาท อาจมีความผิดปกติของประสาทสัมผัสที่มักพบได้บ่อยครั้งร่วมด้วย เช่นอาการไวต่อกลิ่น การได้ยินเสียงรบกวน สัญญาณอาจรุนแรงขึ้นในบางรายและส่งผลให้ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ หรือมีอาการชาที่แขนหรือขา โดยอาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นเป็นเวลาประมาณ 20 – 60 นาที - ระยะแสดงอาการของโรค (Attack Stage)
หลังจากระยะสัญญาณเตือนจบลง เป็นเหมือนช่วงไคลแม็กซ์ของอาการปวดหัวไมเกรน อาการปวดหวตุ๊บ ๆอย่างรุนแรงมักเกิดขึ้นที่ข้างใดข้างหนึ่งของศีรษะ โดยมักมีอาการวิงเวียน และคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย โดยอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปพร้อมกันกับอาการที่ปรากฏในระยะสัญญาณเตือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการไวของประสาทสัมผัสและแสง - ระยะหลังแสดงอาการ (Postdrome Stage)
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังเกิดอาการปวดรุนแรงของไมเกรนแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละคน ส่วนใหญ่มักเกิดอาการเหนื่อยล้าและสับสนในช่วงวันแรก แต่ก็พบว่าผู้ป่วยบางรายมีอาการสดใสขึ้นอย่างชัดเจน อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวร่างกายโดยฉับพลัน อาจทาให้อาการปวดของไมเกรนเกิดซ้าได้
![การรักษาโรคไมเกรน](https://phuketmedicalclinic.com/wp-content/uploads/2023/08/2.การรักษาโรคไมเกรน-1024x683.png)
การรักษาโรคไมเกรน
ปวดศีรษะไมเกรนเป็นโรคเรื้อรัง สามารถควบคุมได้ด้วยการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง และการใช้ยาอย่างเหมาะสม เมื่ออายุมากขึ้นมักจะมีอาการปวดศีรษะลดลง การรักษาปวดศีรษะไมเกรน มีดังนี้
- กรณีปวดหัวไม่รุนแรง
ถ้าอาการปวดหัวไม่รุนแรง แนะนำให้กินเป็นอันดับแรก คือ พาราเซตามอล เนื่องจากยาชนิดนี้สามารถบรรเทาปวดจากสาเหตุต่าง ๆ ได้หลากหลาย โดยเฉพาะอาการปวดศีรษะจากไมเกรนแบบไม่รุนแรง
อย่างไรก็ตาม เราควรมั่นใจก่อนว่าตัวเองเป็นไมเกรนจริง ๆ ไม่ใช่อาการปวดหัวที่มาจากสาเหตุอื่น เพราะการกินยาโดยไม่เข้าใจโรคที่เราเป็นนั้นอาจเป็นการรักษาไม่ตรงจุดและเป็นอันตรายได้ - กรณีปวดหัวรุนแรง
ถ้ามีอาการรุนแรงมาก อาจเลือกใช้ยาในกลุ่ม NSAIDs เช่น naproxen, ibuprofen ซึ่งเป็น NSAIDs ที่ออกฤทธิ์ได้เร็ว เหมาะกับโรคไมเกรน สามารถหาซื้อง่ายตามร้านขายยา แต่เนื่องจากยากลุ่มนี้อาจก่อความระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ จึงแนะนำว่า ให้กินยาพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที
นอกจากนี้ ยังมียาในกลุ่ม NSAIDs ที่ระคายเคืองกระเพาะอาหารน้อยกว่า เช่น Etoricoxib (ชื่อการค้าที่คุ้นหูกันก็คือ Arcoxial) และ Celecoxib ซึ่งก็สามารถใช้บรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้ด้วยเช่นกัน แต่ไม่ควรหาซื้อกินเอง จนกว่าแพทย์จะแนะนำให้กินได้ - ยากลุ่ม NSAIDs สามารถมีผลข้างเคียงต่อตับและไตได้ จึงควรระมัดระวัง ไม่กินยาประเภทนี้เกิน 4 – 10 เม็ดต่อเดือน และควรกินภายใต้คำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- กลุ่มยาแก้ปวด เฉพาะสำหรับอาการปวดหัวไมเกรน
กลุ่มที่เป็นยาแก้ปวดหัวเฉพาะสำหรับโรคไมเกรน ได้แก่- ยากลุ่มทริปแทน (Triptan) อย่างเช่น eletriptan หรือ sumatriptan พบว่ามีประสิทธิภาพดีและมีผลข้างเคียงน้อยกว่า NSAIDs โดยจะออกฤทธิ์ต่อสารเซโรโทนินในสมอง ช่วยทำให้หลอดเลือดในสมองหดตัว ซึ่งผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ สมอง และ ขา ควรระมัดระวังการใช้ และควรใช้ภายใต้คำสั่งแพทย์ ควรเว้นระยะการกินยาอย่างน้อย 12 ชั่วโมง และไม่ควรกินต่อเนื่องเกิน 10 เม็ดใน 1 เดือน
- ยากลุ่มเออร์กอต อัลคาลอยด์ (Ergot alkaloids) เช่น Cafergot ยากลุ่มนี้รักษาได้ผลดี แต่ก็มีผลข้างเคียงที่สำคัญมาก คือ ทำให้เส้นเลือดตีบ หรืออาจทำให้ขาหรือนิ้วดำ จึงไม่ควรกินติดต่อกันเป็นเวลานาน
การป้องกันโรคไมเกรน
แม้ว่าอาการปวดหัวไมเกรนจะไม่เกิดอันตรายต่อสมอง แต่ก็สร้างความรำคาญและรบกวนคุณภาพชีวิตผู้ป่วยได้มาก แถมยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตในระยะยาวได้ ดังนั้น หากสามารถป้องกันไม่ให้อาการกำเริบได้ จะดีกว่าปล่อยให้อาการกำเริบแล้วค่อยมารักษา
อาการปวดหัวไมเกรนสามารถป้องกันได้ ถ้ามาพบแพทย์เพื่อรับแนวทางการรักษาอย่างถูกต้อง ซึ่งอาจสามารถทำให้ความถี่ของการปวดหัวไมเกรนลดลงได้ โดยแพทย์จะเริ่มแนะนำให้ใช้ยาป้องกันเมื่อ
- มีอาการไมเกรน 4 ครั้งใน 1 เดือนขึ้นไป
- มีข้อห้ามต่อการใช้ยาแก้ปวดหัวเฉียบพลัน เช่น มีประวัติแพ้ยา ตั้งครรภ์ หรือเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น
การกินยาป้องกันโรคไมเกรนต่อเนื่องเป็นเวลา 6 – 12 เดือน อาจช่วยทำให้ความถี่ของอาการลดลงได้ถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย การกินยาป้องกันโรคไมเกรนต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
- กลุ่มยาต้านอาการซึมเศร้า (Tricyclic antidepressants) เช่น amitriptyline, nortriptyline ยากลุ่มนี้ มีประสิทธิภาพในการลดความถี่ของการเกิดไมเกรนได้ดีมาก แพทย์มักใช้ยากลุ่มนี้เป็นกลุ่มแรก ๆ เนื่องจากสรรพคุณที่ช่วยในการนอนหลับ และสามารถช่วยลดอาการปวดของโรคออฟฟิศซินโดรม (ซึ่งเป็นโรคที่มักพบร่วมกันบ่อย) ได้อีกด้วย
- กลุ่มยากันชัก (Anticonvulsant) เช่น topiramate ยาชนิดนี้นับว่ามีประสิทธิภาพดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะสำหรับโรคไมเกรน มีการศึกษาว่ายานี้ช่วยลดความถี่ในการเกิดไมเกรนช่วงที่มีประจำเดือนได้ประมาณ 33% [2] แต่ยากลุ่มนี้อาจมีผลข้างเคียงอยู่บ้าง เช่น ทำให้มีอาการมึนงง เกิดอาการชา เป็นต้น
- กลุ่มยาลดความดัน (Beta blocker) เช่น propranolol ยากลุ่มนี้อาจมีประสิทธิภาพในการป้องกันไมเกรนน้อยกว่ากลุ่มยา 2 ข้อข้างต้น (ประมาณ 25% [2]) แต่เนื่องจากยากลุ่มนี้ช่วยลดความดันโลหิตได้ด้วย จึงสามารถใช้กับผู้ป่วยปวดหัวไมเกรน ที่มีโรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคร่วม
การป้องกันไมเกรนโดยใช้ยาฉีดิ โดยการฉีดยาชาเข้าที่เส้นประสาทบริเวณท้ายทอย (occipital nerve block) เป็นการรักษาที่ได้ผลดี สำหรับโรคไมเกรนเรื้อรัง อีกทั้ง แทบไม่มีผลข้างเคียง ยกเว้นอาการชาตามหนังศีรษะ เป็นการรักษาทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่อาจจะทนรับผลข้างเคียงของยาป้องกันไมเกรนตัวอื่น ๆ ไม่ได้
ติดต่อเรา
ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก ให้บริการที่ใกล้ชิด ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมทั้งทีมงานที่มีความชำนาญ พร้อมให้คำปรึกษาและ การรักษา โดยคุณสามารถเข้ารับบริการได้ทั้ง walk-in หรือนัดหมายล่วงหน้า เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้ารับบริการ
จองคิวออนไลน์ https://phuketmedicalclinic.youcanbook.me
เวลาทำการ 🕙 10:00-18:00 น. ทุกวัน
เบอร์ติดต่อ ☎️ 096-696-2449
Line id : @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ) หรือ https://lin.ee/R1TKRDo
แผนที่ 📌https://goo.gl/maps/xu45eTQUTjgpukJa7
Website 🌐https://phuketmedicalclinic.com
ปรึกษาแพทย์หรือสอบถามเพิ่มเติมได้เลยนะครับ
Inbox : m.me/100483916443107
สุขภาพคุณให้เราดูแล#คลินิกภูเก็ต
Phuket #Clinic #ภูเก็ตเมดิคอลคลินิก