เมื่อมีการใช้งานร่างกายทุก ๆ วัน ก็ทำให้ร่างกายที่เคยสภาพดีก็จะค่อย ๆ เสื่อมสภาพลงเรื่อย ๆ การตรวจสุขภาพ จึงเป็นการพาร่างกายเข้ารับการตรวจเช็คสภาพ และตรวจหาโรคต่างๆ เพื่อเป็นการใส่ใจ ดูแลตัวเราเองให้ยังคงสุขภาพที่ดี และแข็งแรงอยู่เสมอ ฉะนั้นการตรวจสุขภาพนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และการตรวจสุขภาพก็ไม่ใช่แค่เรื่องของคนสูงอายุ หรือมีภาวะเสี่ยงต่อโรคเท่านั้น เราทุกคนควรได้รับการตรวจสุขภาพ  เพียงแต่ต้องเลือกตรวจสุขภาพให้เหมาะสมกับช่วงวัยเท่านั้นเอง

โดยทั่วไปแล้วโปรแกรมตรวจสุขภาพเบื้องต้นจะแบ่ง ตามเพศ และอายุ โดยแนะนำให้ตรวจทุก 1 ปี   สำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ความถี่ และรายละเอียดในการตรวจสุขภาพ แพทย์จะพิจารณาจาก สุขภาพโดยรวม ประวัติครอบครัว และรูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล ในส่วนของท่านที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาวางแผนการตรวจสุขภาพให้เหมาะสมกับสภาวะโรคในขณะนั้น

ตรวจสุขภาพให้เหมาะกับช่วงอายุ

ควรเริ่มตรวจสุขภาพประจำปีตอนอายุเท่าไหร่

ความจริงแล้วการตรวจสุขภาพสำคัญสำหรับทุกคนอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นวิธีที่จะทำให้เราได้รู้จักร่างกายของตนเองว่ามีจุดบกพร่องตรงจุดไหนหรือไม่ ด้วยสภาพร่างกายและปัจจัยเสี่ยงของแต่ละเพศแต่ละวัยของแต่และคนนั้นมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน การเลือกรายการตรวจสุขภาพให้เหมาะนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ และเราทุกคนก็ควรได้รับการตรวจสุขภาพเป็นประจำตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงวัยชราเลยทีเดียว

หากตรวจเจอโรคต่าง ๆ เราก็จะสามารถรักษาได้ทันเวลา แต่ในกรณีที่มีความสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงโรคก็สามารถเข้ารับการตรวจได้ทันทีเช่นกัน เพราะบางโรคต้องพึ่งเวลาในการรักษาที่รวดเร็ว เช่น ปอดติดเชื้อ เป็นต้น

ตรวจสุขภาพประจำปี แต่ละช่วงวัย ช่วงอายุ ต้องตรวจอะไรบ้าง?

กลุ่มเด็กแรกเกิด จนถึงวัยรุ่นไม่เกิน 20 ปี

ในช่วงอายุช่วงนี้จะเป็นช่วงวัยที่อวัยวะและระบบการทำงานต่าง ๆ ภายในร่างกายยังมีความสมบูรณ์มาก มักไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้ายแรงต่าง ๆ แต่ในขณะเดียวกันหากมีพฤติกรรมไม่ใส่ใจสุขภาพ 

  • ตรวจสุขภาพตามรายการมาตรฐาน ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง คำนวณค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index : BMI) หากน้อยไปหรือมากไป จะได้ปรับการรับประทานและการออกกำลังกายให้เหมาะสมตามวัย
  • ตรวจพัฒนาการด้านต่างๆ ตามช่วงอายุ และรับวัคซีนตามช่วงวัย
  • ตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน
  • ตรวจสุขภาพดวงตา สายตาและการมองเห็น
  • ตรวจการได้ยิน
  • ตรวจเอกซเรย์ปอด.

กลุ่มวัยรุ่นตอนปลาย ผู้ใหญ่ตอนต้น อายุ 20-30 ปี 

ช่วงปลายวัยรุ่นวัยเรียนและเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน หลายคนอาจละเลยการดูแลสุขภาพ เพราะคนในวัยนี้ส่วนใหญ่ยังแข็งแรง ไม่ค่อยมีการเจ็บป่วยจากความเสื่อมของร่างกาย แต่อย่างน้อยควรได้รับการตรวจสุขภาพพื้นฐานอย่างสม่ำเสมอปีละ 1 ครั้ง เพราะบางคนอาจมีรอยโรคบางอย่างที่เป็นมาแต่กำเนิดแต่ยังไม่เคยตรวจพบ หรือบางรายอาจมีโรคที่เกิดจากความเสี่ยงทางพันธุกรรมยางอย่าง หรือโรคอื่นๆ 

  • การตรวจสุขภาพควรเน้นไปที่การตรวจสุขภาพโดยรวม 
  • ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด 
  • ตรวจระดับไขมันในเลือด 
  • ตรวจระดับคอเรสเตอรอล
  • ตรวจระบบการทำงานของตับ ไต 
  • ความดันโลหิตสูง
  • ตรวจปัสสาวะ 
  • เอกซ์เรย์ปอด 

กลุ่มผู้ใหญ่ตอนต้น อายุ 30-40 ปี

คนในวัยทำงาน ซึ่งมักจะละเลยสุขภาพ เนื่องจากการมีภาระหน้าที่เพิ่มขึ้น และส่วนมากมักมีรูปแบบการใช้ชีวิตซ้ำๆ การรับประทานอาหารแบบเดิมๆ ที่เน้นความรวดเร็ว ทานอาหารไม่เป็นเวลา ทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดื่มน้ำน้อย ยิ่งหากขาดการออกกำลังกาย มีความเครียดสะสม นอนดึก คุณภาพการนอนไม่ดี จึงมักมีภาวะน้ำหนักตัวเกินและไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นต้นเหตุของหลายโรค เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคออฟฟิศซินโดรม  ดังนั้นจึงควรตรวจสุขภาพพื้นฐานให้ครบถ้วน ดังนี้

  • ตรวจรายการทั่วไป
  • ความสมบูรณ์ของระบบเลือด เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว
  • ความยืดหยุ่นของหลอดเลือด
  • ระดับไขมันและน้ำตาลในเลือด
  • ตรวจสุขภาพปอดด้วยการเอกซเรย์ปอด
  • ตรวจค่าการทำงานของตับและไต
  • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
  • ตรวจกรดยูริก
  • ตรวจสมรรถภาพหัวใจ ด้วยการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiography : EKG)
  • ตรวจปัสสาวะ
  • อัลตร้าซาวด์ช่องท้อง
  • เอกซเรย์ปอด 
  • ตรวจสุขภาพดวงตา วัดสายตา ความดันลูกตา
  • ผู้หญิงที่อายุ 30 ปีขึ้นไป หากแต่งงานแล้ว ควรที่จะตรวจภายในเพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วย
กลุ่มผู้ใหญ่ตอนต้น อายุ 30-40 ปี

กลุ่มผู้ใหญ่อายุ 40-50 ปี

ตรวจสุขภาพพื้นฐานเหมือนกับอายุ 30-40 ปี และตรวจเพิ่มเติมละเอียดมากขึ้น เป็นช่วงวัยที่ร่างกายเริ่มหยุดการสร้างฮอร์โมนเพศ อวัยวะและระบบต่าง ๆ เริ่มถดถอยลง อาการของโรคต่าง ๆ จะเริ่มแสดงออกอย่างชัดเจน  จึงต้องเน้นการตรวจสุขภาพแบบครอบคลุมมากขึ้น นอกจากการตรวจพื้นฐานแบบในช่วงวัยทำงาน เช่น 

  • ตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง 
  • ตรวจฮอร์โมน 
  • ตรวจการทำงานของปอด 
  • ตรวจภาวะไขมันพอกตับที่นำไปสู่โรคตับแข็งและมะเร็งตับ 
  • ตรวจการทำงานหัวใจให้ละเอียดขึ้น เพราะโรคร้ายหรือภัยแฝงสุขภาพในช่วงวัยนี้พี่พบบ่อยขึ้น คือภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน อันมีสาเหตุมาจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวผิดปกติ หลอดเลือดหัวใจตีบ และจากการมีคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ ดังนั้นจึงควรตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการวิ่งสายพาน (EXERCISE STRESS TEST : EST) กับตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Echocardiogram : Echo) 
  • ตรวจสายตา
  • ตรวจหาภาวะกระดูกพรุน
  • ตรวจอัลตราซาวด์อวัยวะช่องท้อ
  • ผู้หญิง ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่อง Mammogram แต่อาจต้องตรวจเร็วขึ้นก่อนอายุ 40 ปี ถ้ามีประวัติว่าคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านมในขณะที่อายุน้อยๆ
  • ผู้ชาย ควรตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก

กลุ่มผู้ใหญ่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป

เป็นวัยที่เริ่มมีความมั่นคงในชีวิต และก็เป็นวัยที่โรคร้ายต่างๆ จะเริ่มแสดงออกชัดเจนในช่วงนี้ด้วย

นอกจากรายการตรวจสุขภาพพื้นฐานและการตรวจเพิ่มเติมในช่วงวัย 40-50 ปี แล้ว ในวัย 50 ปีขึ้นไปควรตรวจเพิ่มเติมเพื่อเน้นการค้นหาโรคแฝง โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดห้วใจ มะเร็ง ตรวจภูมิคุ้มกันที่มักลดลงตามวัย ดังนั้นควรพิจารณาเพิ่มรายการตรวจต่างๆ เหล่านี้ เช่น

  • ตรวจวัดระดับสารอาหารวิตามิน เช่น วิตามินดี
  • CT Heart Calcium Score ตรวจภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตัน โดยการวัดระดับแคลเซียมหรือหินปูนที่ผนังหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ บริเวณลิ้นหัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ
  • MRI and MRA Brain ตรวจดูเนื้อสมอง ความเสี่ยงโรคสมองขาดเลือด เนื้อสมองฝ่อ มะเร็งสมอง
  • Low Dose CT Scan Lung ตรวจโรคปอด คัดกรองมะเร็งปอดอย่างละเอียด
  • CT Intra-Abdominal Fat วัดปริมาณไขมันในช่องท้องซึ่งสัมพันธ์หรือบอกถึงความเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือสมอง โรคความดันโลหิตสูง
  • Carotid Intima Thickness and Color Doppler ตรวจวัดการอุดตันและการไหลเวียนเลือดของเส้นเลือดแดงใหญ่บริเวณคอที่นำเลือดไปเลี้ยงสมอง หาความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน (Stroke)
  • ตรวจยีน (Gene Testing) เพื่อหาความเสี่ยงการเกิดโรคก็มีความสำคัญ สามารถบอกความเสี่ยงการเกิดโรคได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ต้องรอให้ผลเลือดผิดปกติ ช่วยวางแผนดูแลสุขภาพทั้งการออกกำลังกาย อาหาร การตรวจทางการแพทย์ที่เหมาะสมตามความเสี่ยงทางพันธุกรรม
  • ตรวจสายตา เนื่องจากจะมีปัญหาเรื่องของสายตายาวที่เกิดขึ้นในช่วงวัยนี้ด้วย จึงควรที่จะตรวจสุขภาพดวงตาทุกๆ 2 ปีด้วยเช่นกัน
  •  มะเร็งลำไส้ใหญ่ อายุ 50 ปีขึ้นไป : ควรตรวจเม็ดเลือดแดงในอุจจาระทุกปี

กลุ่มผู้สูงอายุ วัย 60 ปีขึ้นไป

  • วัยนี้เป็นวัยที่อวัยวะในร่างกายเริ่มถดถอยมาก จึงควรเน้นการตรวจสุขภาพระบบการทำงานของร่างกาย และอวัยวะภายในอย่างละเอียด รวมถึงโรคที่เกิดจากการเสื่อมของอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ ไต สมอง โรคในช่องท้อง มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ แล้วยังมีปัญหาในเรื่องของมวลกระดูกที่เริ่มเสื่อม ทำให้กระดูกพรุนและบางลงไป ซึ่งส่งผลให้กระดูกแตกหักง่าย เพราะฉะนั้นแล้วในช่วงวัยนี้ควรได้รับการปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางในด้านต่างๆ เป็นประจำ เพื่อเลือกตรวจสุขภาพให้ตรงความเสี่ยงของช่วงวัยนี้
  • ตรวจร่างกายทั่วไป ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง BMI และวัดความดันโลหิต อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
  • ตรวจสุขภาพตา อายุ 60-64 ปี ตรวจทุก 2-4 ปี อายุ 65 ปีขึ้นไป ตรวจทุก 1-2 ปี เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการมองไม่ชัด
  • การตรวจทางห้องปฏิบัติการที่จำเป็น
    • ตรวจปัสสาวะ ควรตรวจทุกปี เพื่อคัดกรองความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ
    • ตรวจหาภาวะซีด ควรตรวจทุกปี เมื่ออายุ 70 ปีขึ้นไป
    • ตรวจหาไขมันในเลือด ควรตรวจทุก 5 ปี
    • ตรวจหาเบาหวาน ควรตรวจทุกปี
    • ตรวจเลือดเพื่อดูการทำงานของไต ควรตรวจทุกปี เพื่อตรวจคัดกรองความผิดปกติของไต
  • ตรวจคัดกรองมะเร็ง
    • มะเร็งปากมดลูก ตรวจทุก 3 ปีจนถึงอายุ 65 ปี หลังจากนั้นตรวจตามความเหมาะสม
    • มะเร็งเต้านม ตรวจ mammogram ทุก 1-2 ปี
    • มะเร็งลำไส้ใหญ่ ตรวจเม็ดเลือดแดงในอุจจาระทุกปี
  • ประเมินสภาวะสุขภาพในผู้สูงอายุ
    • ภาวะโภชนาการ เพื่อลดภาวะทุพโภชนาการ และได้รับสารอาหารอย่างเหมาะสม
    • ความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการป้องกันการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต
    • ความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน เพื่อป้องกันการเกิดกระดูกหัก
    • ภาวะสมองเสื่อม เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่เหมาะสมในการดำรงชีวิต
    • ภาวะซึมเศร้า เพื่อคัดกรองภาวะซึมเศร้า และได้รับการวินิจฉัยช่วยเหลือที่ถูกต้องและเหมาะสม

ฉะนั้นเเต่ละช่วงวัยก็ต่างมีปัญหาสุขภาพ ที่ต้องใส่ใจแตกต่างกันไป การตรวจสุขภาพจึงควรเลือกให้เหมาะสม เพราะจะเป็นตัวช่วยให้เราดูแลสุขภาพได้ดีขึ้น เพื่อการห่างไกลจากโรคร้ายได้มากยิ่งขึ้นด้วยนั่นเอง

หากยังเลือกไม่ถูกว่าควรตรวจอะไรบ้างดี สามารถปรึกษาแพทย์หรือเลือกแพ็กเกจตรวจสุขภาพตามช่วงอายุไว้ก่อน แล้วค่อยเลือกตรวจรายการอื่นๆ เพิ่มเติมตามความเสี่ยงของตนเอง ก็จะช่วยให้เรารู้ถึงสภาพร่างกาย เพื่อการดูแล หรือได้รับการรักษาที่เหมาะสม จะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถดูแลตนเอง และใช้ชีวิตได้อย่างใจปรารถนาในทุกช่วงอายุ

การตรวจสุขภาพ ที่ภูเก็ตตรวจได้ที่ไหน?

ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก ให้บริการที่ใกล้ชิด ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมทั้งทีมงานที่มีความชำนาญ พร้อมให้คำปรึกษาและ การรักษา โดยคุณสามารถเข้ารับบริการได้ทั้ง walk-in หรือนัดหมายล่วงหน้า เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้ารับบริการ
จองคิวออนไลน์ https://phuketmedicalclinic.youcanbook.me
เวลาทำการ 🕙 10:00-18:00 น. ทุกวัน
เบอร์ติดต่อ ☎️ 096-696-2449
Line id : @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ) หรือ https://lin.ee/R1TKRDo
แผนที่ 📌https://goo.gl/maps/xu45eTQUTjgpukJa7
Website 🌐https://phuketmedicalclinic.com
ปรึกษาแพทย์หรือสอบถามเพิ่มเติมได้เลยนะครับ
Inbox : m.me/100483916443107
สุขภาพคุณให้เราดูแล#คลินิกภูเก็ต
Phuket #Clinic #ภูเก็ตเมดิคอลคลินิก