ตับ เป็นอวัยวะที่สำคัญในการทำหน้าที่สร้างน้ำดี เพื่อการช่วยย่อยอาหารประเภทไขมัน และทำลายสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย พร้อมทั้งกรองของเสียต่างๆ ให้เป็นของดีมีประโยชน์นำกลับมาใช้ในร่างกาย ดังนั้นถ้าตับทำงานได้น้อยลง หรือเกิดโรคของตับ เช่น มีไขมันพอกตับ ตับอักเสบ ตับแข็ง จะส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติทางร่างก่ายที่ส่งผลไปทั้งระบบ จนนำไปสู่การเสียชีวิตได้เมื่อตับเสียการทำงานจนถึงขั้นเข้าสู่ภาวะตับวาย และโรคมะเร็งตับได้

ทำไมตรวจการทำงานของตับ

ตับ คืออะไร?

ตับ ( liver ) คือ เป็นอวัยวะภายในร่างกายที่ใหญ่ที่สุด และมีหน้าที่สำคัญหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างน้ำดีเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยขจัดของเสียออกจากกระแสเลือด แล้วทำการขับออกมาทางน้ำดีลงสู่ลำไส้ปนไปกับอุจจาระ ดังนั้นเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือไวรัส การบริโภคแอลกอฮอล์ การรับประทานสมุนไพรหรืออาหารเสริมต่างๆ แล้วมีเหลือตกค้างในร่างกายสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลต่อการทำงานของตับ และก่อให้เกิดความผิดปกติภายในตับ เช่น ภาวะตับอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งมีการอักเสบบวมของเนื้อตับ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดตับ จุกตึงใต้ชายโครงขวา ร่วมกับมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และเกิดดีซ่านขึ้นได้

ซึ่งตับยังช่วยผลิตโปรตีนหลายชนิดให้ร่างกาย  ฉะนั้นเราจึงควรใส่ใจดูแลตับให้อยู่ในสภาพที่แข็งแรงปกติ พร้อมทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ โดยการตรวจการทำงานของตับ เช่นเดียวกับการตรวจอวัยวะอื่นๆ

ตับอยู่บริเวณในช่องท้องชิดติดกับกะบังลม ค่อนไปทางฝั่งขวา มีซี่โครงเป็นเกราะกำบัง มีลักษณะรูปทรงคล้ายรูปสามเหลี่ยม สีออกแดงปนน้ำตาล มีขนาดน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 1.3 ถึง 1.5 กิโลกรัม เป็นอวัยวะที่มีแค่ชิ้นเดียวในร่างกาย แต่สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ตับซีกซ้ายและตับซีกขวา

ตับทำหน้าที่อะไรบ้าง

ตับทำหน้าที่อะไรบ้าง?

ตับจะคอยทำหน้าที่ทั้งเป็นผู้ผลิต ผู้รับ และเก็บรักษาวัตถุดิบ คอยตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบก่อน แจกจ่ายไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย นอกจากนี้ยังรวมถึงการรับและขจัดของเสียส่วนเกินจากร่างกายออกไปด้วย ซึ่งสามารถอธิบายรายละเอียดและแบ่งเป็นข้อๆได้ดังนี้

  1.  ตับเป็นผู้ผลิต ในแต่ละวันที่เราทานอาหารต่างๆ เข้าไป ร่างกายจะไม่สามารถใช้งานจากอาหารนั้นได้ทันที ซึ่งอาหารเหล่านั้นจะต้องผ่านกระบวนการย่อยอาหารจาก ลำไส้เล็ก และ กระเพราะอาหารเสียก่อน  แล้วจึงส่งไปให้ตับผลิตเป็นอาหารที่ร่างกายสามารถเอาไปใช้งานได้ต่อไป  เช่น  โปรตีน น้ำตาลกลูโคส น้ำดี รวมถึงการผลิตไขมัน
  2.  ตับเป็นหน่วยคลังเก็บรักษา ตับจะทำหน้าที่เป็นผู้เก็บสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินต่าง ( A, D, K, B12 ) ไกโคนเจน เป็นต้น เอาไว้ใช้ในยามจำเป็นเมื่อร่างกายต้องการหรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และยังเป็นอวัยวะที่เก็บสารที่สามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เช่น สารเคมีจากยารักษาโรค ก่อนที่จะนำไปกำจัดทิ้งตามขั้นตอนต่อไป
  3. ตับเป็นหน่วยรักษาความสะอาด ตับยังเป็นผู้รักษาความสะอาดในร่างกายของมนุษย์ด้วย โดยตับจะทำ หน้าที่ในการกำจัดขยะ ของมีพิษ หรือทำของมีพิษให้หมดพิษไป ตัวอย่างขยะหรือสิ่งมีพิษที่สำคัญ เช่น แอลกอฮอล์ ฮอร์โมน บิลิรูบิน และยาชนิดต่าง ๆ เป็นต้น

ทำไมต้องตรวจการทำงานของตับ?

  • ตรวจเพื่อหาภาวะตับอักเสบ ตับเสื่อมสภาพ ภาวะดีซ่าน
  • ตรวจเพื่อดูความผิดปกติของตับ และทางเดินน้ำดี
  • เพื่อตรวจดูความเสี่ยงและความเสียหาย หรืออาการติดเชื้อที่เกี่ยวกับตับ
  • ตรวจหาผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยา
  • ตรวจการทำงานของตับในผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเป็นโรคทางตับ
  • เพื่อติดตามอาการ และผลการรักษาโรคทางตับ
  • ตรวจความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตับและสามารถส่งผลต่ออวัยวะอื่น ๆ ได้
การตรวจการทำงานของตับ

ตรวจการทำงานของตับ 

ตรวจการทำงานของตับ (Liver Function Test) คือ การตรวจสอบเช็คสุขภาพของตับ ว่ายังทำงานได้ดีมากน้อยเพียงใด หรือมีภาวะสุ่มเสี่ยงในการเป็นโรคเกี่ยวตับหรือไม่อย่างไร โดยวัดค่าเอนไซม์และโปรตีนในเลือด ซึ่งมีวิธีการตรวจในทางการแพทย์ดังนี้

1. วิธีการตรวจหาโปรตีนที่สร้างจากตับ  เนื่องจากในตับมีโปรตีนหลายชนิด การเกิดภาวะโรคหลายชนิด เช่น โรคตับ โรคไต มะเร็ง ขาดอาหาร จะไปทำให้ค่าโปรตีนในตับผิดปกติ โดยโปรตีนที่ใช้ตรวจได้แก่

  • Globulin เป็นโปรตีนที่สร้างจากตับและเม็ดเลือดขาว
  • Albumin เป็นโปรตีนที่สร้างจากตับ ถ้าตับสร้างสารนี้ไม่ได้ก็จะเกิดการบวมน้ำ

2. วิธีการตรวจเอนไซม์จากตับ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและให้ผลการตรวจที่แม่นยำ หากมีการทำลายหรือการอักเสบของตับเกิดขึ้น จะมีการหลั่งเอนไซม์ประเภทนี้ ออกจากตับสู่กระแสเลือด.ในปริมาณที่ผิดปกติ มีวิธีดังต่อไปนี้

  • ตรวจการทำงานของตับ AST (Aspartate transaminase) หรือ SGOT (Serum glutamic oxaloacetic transaminase)  พบได้ในตับ ไต เนื้อเยื่ออื่นๆ หากค่าที่ตรวจได้ มีค่าสูงกว่าปกติ ก็อาจเป็นตัวบ่งชีว่า มีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับตับ ได้
  • ตรวจการทำงานของตับ ALT (Alanine transaminase) หรือ SGPT (Serum glutamate-pyruvate transaminase)  พบมากในตับและไต พบน้อยในกล้ามเนื้อหัวใจ และตับอ่อน หากมีค่าสูงก็อาจจะเป็นตัวบ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงในการเป็น โรคตับอักเสบและโรคตับแข็ง

ใครบ้างที่ควรตรวจการทำงานของตับ? 

  • ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ชอบดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมากหรือดื่มเป็นประจำ
  • ผู้ที่ทานยาที่อาจส่งผลกระทบต่อตับเป็นประจำ
  • ผู้ที่มีคนในครอบครัวเป็นหรือเคยเป็นโรคที่เกี่ยวกับตับควรเข้ารับการตรวจการทำงานของตับ
  • ผู้ที่มีความสงสัยว่าตนเองอาจได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบ
  • ผู้ที่พบว่าตนมีอาการของโรคทางตับ เช่น 
  • เจ็บท้อง  ท้องบวม 
  • มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
  • มีอาการตาเหลือง ผิวเหลือง (ภาวะดีซ่าน)
  • มีอาการขาหรือเข่าบวม
  • มีอาการอ่อนแรงมาก
  • เบื่ออาหาร
  • ปัสสาวะมีสีเข้ม
  • มีอาการคันตามผิวหนัง

ตรวจการทำงานของตับที่ไหนในภูเก็ต

ภูเก็ต เมดิคอล คลินิก ให้บริการที่ใกล้ชิด ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมทั้งทีมงานที่มีความชำนาญ พร้อมให้คำปรึกษาและ การรักษา โดยคุณสามารถเข้ารับบริการได้ทั้ง walk-in หรือนัดหมายล่วงหน้า เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้ารับบริการ
จองคิวออนไลน์ https://phuketmedicalclinic.youcanbook.me
เวลาทำการ 🕙 10:00-18:00 น. ทุกวัน
เบอร์ติดต่อ ☎️ 096-696-2449
Line id : @pmcphuket (มี @ ด้วยนะครับ) หรือ https://lin.ee/R1TKRDo
แผนที่ 📌https://goo.gl/maps/xu45eTQUTjgpukJa7
Website 🌐https://phuketmedicalclinic.com
ปรึกษาแพทย์หรือสอบถามเพิ่มเติมได้เลยนะครับ
Inbox : m.me/100483916443107
สุขภาพคุณให้เราดูแล#คลินิกภูเก็ต
Phuket #Clinic #ภูเก็ตเมดิคอลคลินิก